กองทุนหุ้นแบบที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนมือใหม่

ลงทุน

กองทุนหุ้นเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการลงทุน ที่น่าสนใจเหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ เนื่องจากว่านักลงทุนมือใหม่อาจจะยังไม่มีประสบการณ์ในการลงทุน และมีคำถามเกิดขึ้นในใจมากมาย ว่าผู้จัดการกองทุนจะนำเงินไปทำอะไรจะโดนโกงไหม ทำไมไม่เล่นหุ้นเอง ค่าธรรมเนียม เป็นเท่าไหร่อย่างไรบ้าง นี่คือคำถามสุดฮิตของผู้เล่นมือใหม่ในวงการ คุณเลยก็ว่าได้แต่หากคุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับกองทุนรวม ทำให้เข้าใจวิธีการลงเงิน และผลตอบแทนที่คุ้มค่า

 กองทุนรวมหุ้น คือ การระดมเงินทุนจากคนจำนวนมาก นำไปจดทะเบียนนิติบุคคล และตั้งเป็นกองทุน จากนั้นจะมีผู้จัดการธกสทุนนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ และได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยให้กับผู้ลงทุนตามสัดส่วนของการลงทุนนั่นเอง ซึ่งคำถามที่ว่า ทำไมมือใหม่ควรเริ่มลงทุนในกองทุนหุ้นก่อนเรามีคำแนะนำให้กับมือใหม่ถึงข้อดีในการลงทุนหุ้นรวม 

1.กองทุนหุ้นมีมืออาชีพคอยจัดสรรเงินทุน

การที่เป็นมือใหม่จะลงทุนสินทรัพย์หรือลงทุนหุ้นจะต้องมีประสบการณ์และ เข้าใจแนวทางของหุ้นเรียกได้ว่าเล่นหุ้น เป็นจึงจะเหมาะมากกว่าการที่คุณลองผิดลองถูก เพราะหุ้นหากลองผิดก็จะติดดอยหรืออาจจะเสียผลประโยชน์ เสียเงิน ในการลงทุนนั่นเอง หากลงทุนในกองทุนรวมผู้จัดการกองทุนจัดหามืออาชีพ เพื่อให้มั่นใจว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ของผู้ลงทุนจะถูกนำเงินไปลงทุนให้มีผลกำไรงอกเงย แต่ละคนจะมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการนำเงินไปพัฒนื และลงทุนหุ้นให้สำเร็จ มากกว่ามือใหม่ที่เพิ่งหัดลงทุนแน่นอน จึงทำให้เชื่อมั่นและมั่นใจในระบบกองทุนหุ้นมากกว่า 

2.กองทุนหุ้นรวมทำให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถือหุ้นได้มากขึ้น

 ยกตัวอย่างว่าหากคุณต้องการซื้อหุ้นกับบริษัทใหญ่ๆ ที่อยู่ในตลาดหุ้นอเมริกา คุณต้องหาวิธีเปิดพอร์ตในการลงทุน ซึ่งขั้นต่ำสูงมาก แต่คุณมีเงินไม่พอ ก็ไม่สามารถเปิดพอร์ตนำเงินไปลงทุนได้ แต่ในกรณีที่คุณ เข้าไปอยู่ดูกองทุนรวม คุณสามารถนำเงินไปลงทุนกองทุนต่างประเทศอีกทีนึงได้ และดูแลเรื่องค่าเงินให้กับคุณด้วย นอกจากนี้ทรัพย์สินบางอย่างกองทุนจะนำเงินไปลงทุน เช่น ทองคำ น้ำมัน เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับ กองทุนและทำให้ผลกำไรงอกเงย 

3.ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี

มือใหม่อาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องของการลงทุน และเสียภาษีมากนัก แต่การซื้อกองทุนเหล่านี้คุณสามารถนำ ไปลดหย่อนภาษีเงิน เป็นการลงทุนให้งอกเงย แต่หากลงทุนระยะยาวกับกองทุนรวม คุณไม่สามารถนำเงินออกมาใช้ก่อน จะต้องถึงกำหนดเท่านั้น จึงจะสามารถนำเงินออกมาใช้ได้ นอกจากนี้การลงทุนหุ้น รวมยังมีสภาพคล่องที่ดีกว่ามีการดูแลผลประโยชน์ จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำหรับคำถามที่ว่า มีการเก็บค่าธรรมเนียมเยอะไหม กองทุนรวมอาจจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมแต่ เป็นค่าธรรมเนียมที่ถูกมากๆ ซึ่ง กองทุนรวมในไทยจะเก็บค่าธรรมเนียมอยู่ที่ประมาณ 1-2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น 

ค่าธรรมเนียมต่างๆของกองทุนรวมจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 

1.ค่าธรรมเนียมรายปี เป็นระบบการจัดการจะถูกเก็บเป็นรายปีโดยหักออกจาก NAV ดังนั้นเมื่อรวมค่าธรรมเนียมแล้วก็จะอยู่ที่ประมาณ 1.8 เปอร์เซ็นต์ต่อปี 

2.ค่าธรรมเนียมเมื่อเกิดการทำธุรกรรมการซื้อขายแลกเปลี่ยน เช่น เมื่อคุณซื้อกองทุน ไป 1000 บาทจะถูกหักออก 1 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมในการรับซื้อคืน

 วิธีการเลือกกองทุนรวมสำหรับมือใหม่ 

นักลงทุนมือใหม่ที่พึ่งเข้าสู่วงการหุ้น การลงทุนคุณจะต้องมีวิธีการเลือกกองทุนรวมให้เหมาะสมกับตัวเองซึ่งเรามีวิธีการจัดสรรกองทุนรวมมาฝากกันดังนี้ 

1.ลงทุนแบบจัดพอร์ต 

ลงทุนหลายกองทุนแตกต่างกัน โดยกองทุนจะนำเงินทุนไปลงในหุ้นไทย หุ้นทองคำ หรือพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งการจัดสัดส่วนพอร์ตแบบนี้ จะเป็นการลงทุนที่ถูกต้องตามหลัก ช่วยลดความผันผวนในพอร์ตได้ และยังเพิ่มโอกาสของผลตอบแทนในระยะยาว โดยจะ จัด กองทุน เป็นส่วนแบ่งตามประเภทของสินทรัพย์ และในแต่ละส่วนกองทุนจะมองหาว่า ควรลงทุนแบบไหนมีการลงทุนตามสัดส่วนที่วางไว้ 

2.ลงทุนกลุ่มตราสารทุน

 โดยตราสารแสดงถึงความเป็นเจ้าของของบริษัทนั้น เป็นกองทุนหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงแต่ก็มีความเสี่ยงสูง เช่นกองทุนตราสารทุนในต่างประเทศ กลุ่มนี้จะเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นไทยบริษัทที่มีมูลค่าตลาดหลักทรัพย์ไม่เกิน 80 ล้านบาทในรอบปี หรือมากกว่า 80% เล่นหุ้นขนาดเล็กและหุ้นขนาดกลาง ที่มีความผันผวนสูงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น หรือจะเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทในไทยทั้งหุ้นเล็กและหุ้นใหญ่อาจจะคละไปก็ได้

 3.การลงทุนตราสารทุน วงการอุตสาหกรรมเฉพาะทาง

 เป็นการลงทุนที่เน้นหุ้นประเภทเดียว มีความเสี่ยงสูงเหมาะสำหรับคนที่อยากลงทุนเน้น อยู่ในหมวดเดียวกัน เช่น การลงทุน health care เป็นการดูแลด้านสุขภาพ โดยเน้นหุ้นตัวนี้ไปโดยตรง การลงทุนตราสารหุ้นในกลุ่มของพลังงาน 

4.กองทุนประเทศรวมดัชนี

เป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนใกล้เคียง กับผลตอบแทนดัชนี set 50 มากที่สุด ถ้าการลงทุนในกลุ่มตราสารหนี้ โดยสถิติแล้วมีความเสี่ยงของการลงทุนในกลุ่มนี้ค่อนข้างน้อย เป็นการลงทุนทั้งแบบรัฐบาลและเอกชนซึ่งการลงทุนในเงินฝากตราสารหนี้ของภาครัฐ จะมีอายุเฉลี่ยแล้วไม่เกิน 1 ปี เช่นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งมีความปลอดภัย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการการลงทุนสูงไม่ต้องการความผันผวนสูง 

6.กองทุนรวมผสม

เป็นกองทุนที่เหมาะ สำหรับคนที่ไม่อยากจัดพอร์ตเองทางกองทุนจะจัดพอร์ตให้ไปเลย 

7.กองทุนรวมหุ้นอสังหาริมทรัพย์

เหมาะสำหรับคนที่อยากลงทุนในหมวดอสังหาริมทรัพย์โดยตรง เช่นโรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้าสนามบิน รวมถึงโปรเจคต่างๆ 

8.กองทุนรวมสินค้าโภคภัณฑ์

กองทุนรวมแบบนี้ เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมัน เงิน รวมถึงสินค้าการเกษตร แต่กองทุนหุ้นแบบนี้มีความผันผวนสูงมาก แต่ก็เป็นหนึ่งในกองทุนรวมที่กระจายความเสี่ยงได้ สำรวจตัวเอง 

ก่อนซื้อกองทุนรวมการที่ควรจะลงทุนอะไรไปก็ตามควรจะต้องสำรวจตัวเองก่อนว่า เหมาะสมกับกองทุนนั้นหรือไม่โดยทำตาม ขั้นตอนดังนี้ 

  • ต้องทราบว่าต้องการอะไรจากการลงทุน สำรวจตัวเองว่าคุณชื่นชอบหรือถนัดกับการลงทุนประเภทไหน เช่น อยากลงทุนในสินทรัพย์ หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศตราสาร หนี้ทองคำรวมถึงหุ้นอสังหาริมทรัพย์ต้องการปันผลในระยะเวลาเท่าไหร สามารถรับความเสี่ยงได้ขนาดไหน หากคุณมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของคุณแต่ละตัวแล้ว คุณจะสามารถเลือกลงทุนหุ้นกองทุนหุ้นได้ทุกประเภท ซึ่งเราแนะนำให้คุณ เลือกดูกองทุนหุ้น จากนั้นนำมาเปรียบเทียบว่ากองทุนไหนเหมาะสมกับคุณที่สุด 
  •  ให้ดูรายละเอียดกองทุนรวมหุ้นผ่าน Fund Fact Sheet คือเป็นการดูข้อมูลว่ากองทุน ที่คุณจะนำเงินไปลงทุนนั้นจะนำเงินของคุณไปลงทุนในอะไรบ้าง มีเป็นขนาดกองทุนขนาดเล็กขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ มีการจ่ายเงินปันผลหรือไม่ยอดขั้นต่ำในการซื้อหุ้นเท่าไหร่ รวมถึงค่าธรรมเนียมด้วยนอกจากนี้ควรดู อายุของหุ้นด้วยว่าเปิดมานานแล้วหรือยัง มีสภาพคล่องของกองทุนมากน้อยแค่ไหน ศึกษาให้ละเอียดและสอดคล้องกับ ความต้องการของคุณหรือไม่ 
  •  คำนึงไว้เสมอว่ากองทุนที่ดีจะต้องให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ บางกองทุนให้ผลตอบแทนดีมากในช่วงเวลาสั้นๆเพียงแค่ปีหรือ 2 ปีเท่านั้นหากว่าเป็นแบบนั้นแสดงว่ากองทุนนั้นไม่ใช่กองทุนที่ ดีเสมอไปเราควรดูผลตอบแทนย้อนหลัง ถ้าดีมาอย่างสม่ำเสมอแสดงว่าเป็นกองทุนหุ้นที่น่าสนใจและดูข้อมูลได้จาก  Fund Fact Sheet จะบอกรายละเอียดข้อมูลต่างๆของกองทุนให้คุณได้ทราบ และเน้นไปที่ผลตอบแทนย้อนหลัง 
  •  การลงทุนคือความเสี่ยง ควรศึกษาก่อนการลงทุนแม้ว่าจะเป็นกองทุนรวมมีความเสี่ยงน้อยกว่า การลงทุนเองแต่ ก็ไม่ได้แปลว่ากองทุน จะไม่มีความเสี่ยงเลยดังนั้นให้คุณเปรียบเทียบ กองทุนหุ้นแต่ละตัวโดยดูว่า คุณมี ความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงอยู่ที่เท่าไร ซึ่งแนะนำวิธีการดูคือให้ไปที่ Fund Fact Sheet ให้ดูข้อมูลว่ายิ่งสูงก็ยิ่งดี หากกองทุนประเภทเดียวกันมี Radio สูงกว่า แสดงว่ากองทุนนั้นทำผลงานได้น่าสนใจ 
  •  ติดตามกองทุนอย่างต่อเนื่อง ในบางครั้งคุณมั่นใจและเชื่อใจการลงทุนโดยที่คุณไม่สนใจติดตามหรือสอบถามข้อมูลเลย ซึ่งความเป็นจริงแล้วแนะนำให้คุณติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกองทุนรวมทุกทุก 6 เดือนหรือ 1 ปี ว่ามีผลการตอบแทนเท่าไหร่อย่างไร มีมาตรฐานการดำเนินงาน เป็นอย่างไรบ้างโดยที่คุณควรดูพอร์ตการลงทุนของกองทุนรวมหุ้นอีกทั้งและวิเคราะห์ดูผลงาน ไม่ว่าคุณจะลงทุนกองทุนหุ้นแบบใด การศึกษาหาข้อมูล จะทำให้คุณมี โอกาสที่จะทำกำไรจากการ ลงทุนสูงขึ้น 

เปิดวาร์ปกองทุนรวมหุ้นตัวท็อปที่ทำกำไร แต่ละประเภท 

  กองทุนรวมหุ้นไทย

  • กองทุนเปิดทิสโก้สแตรทิจิกฟันด์ชนิดหน่วยลงทุน A 16.12%ต่อปี 
  • กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี มิด สมอล แค็ป ชนิดผู้ลงทุนทั่วไปที่รับเงินปันผล 12.66% ต่อปี 
  •  กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้น mid Small Cap 8.35% ต่อปี 
  •  กองทุนเปิดทิสโก้ small แคปเอควิตี้ชนิดหน่วยลงทุน A 8.30% ต่อปี
  •  กองทุนเปิดแอสเซทพลัสหุ้นไทย 7.01% ต่อปี

กองทุนรวมผสม 

  • กองทุนเปิดทิสโก้แฟล็กซิเบิ้ล พลัส 16.41 % ต่อปี 
  • กองทุนเปิดทิสโก้ แอ็กเกรสซีฟ โกรส ฟัน 12.81% ต่อปี 
  •  กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี บีทีอินคัมโกรส ฟัน ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป 10.62%ต่อปี 
  •  กองทุนเปิด mfc flexible fund 7.14% ต่อปี 
  •  กองทุนเปิดแอลเอชเอ็มเอส เฟล็กซิเปิ้ล ชนิดขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ 6.68% ต่อปี 

กองทุนรวมในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ 

  • กองทุนเปิดเคแทมเวิลด์ พร็อพเพอร์ตี้ ฟัน 8.27% 
  • กองทุนเปิดเคเวิลด์พร็อพเพอร์ตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ 7.66% 
  • กองทุนเปิดแอสเซทพลัสยุโรปพร็อพเพอร์ตี้ 5.88% 
  •  กองทุนเปิดเคพร็อพเพอร์ตี้อินฟาเฟ็กซิเบิ้ล 5.83% ต่อปี
  •  กองทุนเปิดทิสโก้ยูเอส รีท 5.43% ต่อปี 

กองทุนรวมทองคำ 

  • กองทุนเปิดเคโกลด์A ชนิดจ่ายเงินปันผล 4.92% ต่อปี 
  • กองทุนเปิดเคโกลด์เพื่อการเลี้ยงชีพ 4.82% ต่อปี 
  •  กองทุนเปิดธนชาตทองคำแท่งเพื่อการเลี้ยงชีพ 4.77 เปอร์เซ็นต์ต่อปี 5 กองทุนเปิดธนชาตทองคำแท่ง 4.75%ต่อปี 
  • กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ที่ THB ชนิดสะสมมูลค่า 4.33%ต่อปี

ซึ่งข้อมูลทั้งหมด เป็นข้อมูลในปี 2021 ในปี2022 นี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน ซึ่งคุณจะต้องหาข้อมูลและศึกษาก่อนการลงทุนในกองทุนรวม ดังนั้นหากคุณต้องการลงทุนในกองทุนรวมหุ้น เพื่อการลงทุนที่คุ้มค่าแนะนำให้คุณศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน และหุ้นแต่ละตัว ซึ่งคุณจะต้องศึกษาการลงทุนอย่างละเอียดเข้าใจ ในการกองทุนรวมถึงพัฒนาตัวเอง ศึกษาหาข้อมูลหลายๆด้านจะทำให้คุณเข้าใจกองทุนรวมหุ้นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะมือใหม่การลงทุนไม่ใช่เรื่องยากขอเพียงแค่คุณศึกษาหาข้อมูล และรายละเอียด จะทำให้คุณสามารถลงทุนได้ ง่ายและสนุกกว่าเดิมได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s