การพัฒนาตัวเองและการทำธุรกิจกับควบคู่กันเสมอ ถ้าคุณไม่หยุดนิ่งจะทำให้คุณมองหาช่องทางใหม่ๆ ในการทำเงินได้ ซึ่งวันนี้หากคุณมีต้นทุน 1,000 บาท คุณจะเริ่มลงทุนอะไรดีที่จะส่งผลทำให้กำไรงอกเงย ต่อยอดไปสู่ ความสำเร็จในระยะยาว ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
สำรวจตัวเองก่อนว่าคุณชื่นชอบแนวไหนดูว่าถนัดอะไรจากนั้นศึกษาหาความรู้ จะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ
1.เปิดรับออเดอร์อาหาร หรือเครื่องดื่ม ขายออนไลน์ เราแนะนำให้คุณ pre order ให้ลูกค้าสั่งสินค้ามาแล้ว ชำระเงิน จากนั้นนำทุนที่คุณได้ 1,000 บาท และเงินที่ลูกค้าชำระมาไปซื้อสินค้า มาทำอาหารจัดส่งตามวันที่ กำหนดกับลูกค้าไว้ โดยที่คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้า Social Media จะทำให้คนลดต้นทุนในเรื่องของ การมีหน้าร้านและกำไรเพิ่มขึ้น และสิ่งที่สำคัญในการเปิดธุรกิจอาหารหรือขนม คือรีวิวลูกค้าจะมารีวิวหน้าเพจ หรือหน้าร้านว่าขนมของคุณ ว่ามีความอร่อยมีความใส่ใจ จัดส่งตรงเวลาอาหารสดใหม่ จะสร้างความน่าเชื่อถือให้ลูกค้า เกิดการบอกต่อ
2.ทำของทานเล่นไปขายตลาดนัด คุณสามารถลงทุนขายของเล็กๆ เช่น ลูกชิ้นเฟรนช์ฟรายส์ ซึ่งเป็นลงทุนไม่สูง และยังต่อยอดกำไร ได้มากขึ้น นอกจากตลาดนัดแล้วเทศกาลอาหาร งานวัด ที่ค่าเช่าที่ไม่แพงก็สามารถลงทุนได้หรือใครที่ถนัด การทำเครื่องดื่มน้ำอัดลมหรือ ชาไทยชามะนาว ชาเขียวโกโก้ เป็นต้น เหล่านี้ก็สามารถขายได้เช่นเดียวกันนะขายดีด้วย
3.การพรีออเดอร์สินค้า ธุรกิจนี้ไม่ค่อยมีความเสี่ยงแต่คุณจะต้องวางแผนให้ดี เลือกลูกค้าที่รอสินค้าพรีออเดอร์ได้ และสินค้าส่วนใหญ่จะต้องเป็นสินค้าที่ลูกค้า หาซื้อยากนำเข้าจากต่างประเทศใช้เวลานาน หรือเป็นสินค้า limited ลูกค้าจะยินดีโอนเงิน เพื่อพรีออเดอร์สินค้า นอกจากนี้คุณยังต้องเก็บเงินลูกค้ามาก่อน เพื่อนำเงินไปซื้อสินค้าจะทำให้คุณไม่จมทุนลูกค้า ได้รับสินค้าที่มีคุณภาพแต่คุณจะต้องคัดเลือก สินค้าร้านค้าที่คุณจะซื้อให้ดี เพราะหากสินค้าเสียหายร้านของคุณจะหมดความน่าเชื่อถือ และอาจจะขายไม่ได้เมื่อลูกค้าพูดกันปากต่อปาก ดังนั้นระมัดระวังในการเลือกสั่งซื้อสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่มาจากต่างประเทศ
4.ธุรกิจรับหิ้วสินค้า ธุรกิจนี้จะสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในกรณีที่ร้านค้าแบรนด์ดังต่างๆ ในห้างสรรพสินค้าลดราคา ลูกค้าไม่มีเวลาไปต่อแถวต่อคิว สามารถใช้บริการนี้ได้ และการลงทุน 1,000 บาทนี้ ยังเป็นค่าเดินทางค่าใช้จ่ายในระหว่างวัน ที่คุณไปรับหิ้ว แต่คุณควรแจ้งราคารับหิ้วของสินค้าแต่ละชิ้นให้ชัดเจน มีค่าส่ง และที่สำคัญคืออัพเดทโปรโมชั่นบ่อยๆ จะทำให้ลูกค้าได้ทราบข้อมูลว่าสินค้าอะไรลดบ้าง เป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมในตอนนี้ และที่สำคัญคือการเก็บเงินลูกค้าก่อนเพราะมีลูกค้าหลายท่าน ที่เมื่อสั่งสินค้าไปไม่รับสินค้า ทำให้คุณต้องเสียเวลาและเสียเงินฟรีในการซื้อสินค้านั่นเอง ดังนั้น เมื่อลูกค้าสั่งสินค้าคุณรับหิ้ว ต้อง โอนทันที นี่คือกฎกติกาของการรับหิ้ว
5.เป็นตัวแทนขายสินค้าแบบไม่ต้องสต๊อก ปัจจุบันนี้การทำธุรกิจเป็นตัวแทนขายสินค้าแบบไม่ต้องสต๊อก จะทำให้คุณไม่จมทุน เหมาะสำหรับแม่ค้ามือใหม่งบน้อย ด้วยการสมัครเป็นตัวแทนสินค้านำรูปภาพมาโพสต์บน Social Media เมื่อลูกค้าสั่งซื้อคุณ ก็สั่งออเดอร์ไปกับทางร้านค้าบวกกำไรส่วนต่าง จะให้ทางร้านส่งสินค้าให้
6.การทำดรอป ชิฟ มีความคล้ายกับการเป็นตัวแทนสินค้า เพราะลงทุนน้อยและ มีความเสี่ยงต่ำ วิธีการคือให้คุณติดต่อร้านค้า เพื่อขอนำสินค้ามาดรอป ชิฟ โดยการนำรูปมาโพสต์ จากนั้นเมื่อขายได้คุณก็ไปสั่งซื้อกับร้านค้า ได้ทันทีโดยที่ทุนไม่จม หากคุณบริการลูกค้าด้วยความประทับใจลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำแน่นอน
7.การลงทุน ซึ่งแบ่งเป็นหลายรูปแบบ คือ
- การออมทอง คือการสะสมเงินในแต่ละเดือน ในจำนวนที่เท่ากัน เมื่อเปลี่ยนเป็นทองคำ เหมือนกับการที่คุณนำเงินไปฝากไว้เมื่อครบ ราคาทองแล้ว ก็สามารถซื้อทองได้เลยเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเก็บออม ที่คุณมีเงิน 1,000 บาทต่อเดือนคุณสามารถออมทองได้ เมื่อครบตามจำนวนราคาทองคุณก็ได้ทองคำกลับมา
- ซื้อสลากออมทรัพย์ เป็นการลงทุน โดยผู้ฝากเงินจะได้รับทั้งดอกเบี้ย และยังได้ลุ้นเงินรางวัลด้วย วิธีนี้เป็นการลงทุนที่เหมาะสำหรับ คนที่ไม่อยากให้เงินต้นสูญหาย แต่ชอบความเสี่ยงและชอบการลงทุน ซึ่งระยะเวลาในการ ซื้อสลากออมทรัพย์ เช่น ออมสิน 2 ปี ราคาหน่วยละ 100 บาท ธกส 2 ปีราคาหน่วยละ 20 บาท
- กองทุนรวม คือ การระดมเงินทุน จากนักลงทุนหลายรายมารวมให้เป็นก้อนใหญ่ และบริษัทจัดการกองทุน จะนำเงินไปต่อยอด ไปลงทุนตามนโยบาย ที่ได้แจ้งไว้กับทาง นักลงทุน ซึ่งเป็นกองทุนที่บริหาร โดยผู้จัดการกองทุนที่มีความเป็นมืออาชีพ เช่น กองทุนรวมผสม กองทุนรวมหุ้น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาในการลงทุน ไม่ค่อยมีเวลาในการศึกษาเรื่องหุ้นด้วยตัวเอง ซึ่งกองทุนรวมมีให้เลือกหลายความเสี่ยง ตั้งแต่ความเสี่ยงน้อยไป จนถึงความเสี่ยงสูงโดยการจัดพอร์ตลงทุน ให้มีความเสี่ยงตรงกับตัวคุณเอง ว่าคุณยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์ในการลงทุน ไม่มีเงินก้อน แล้วไม่ค่อยมีเวลา ในการติดตามดูข่าวเกี่ยวกับ การลงทุนเป็นต้น
- หุ้น คือ การนำเงินไปลงทุน เพื่อร่วมเป็นเจ้าของกับบริษัทต่างๆ ที่จดทะเบียน อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ โดยทางบริษัทจะแบ่งส่วนผลกำไร ตามที่บริษัทได้ประกาศไว้มีสิทธิ์ ในการเข้าร่วมประชุมการออกเสียง แต่การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ราคาหุ้นมีการผันผวน ดังนั้นให้คุณหาข้อมูลและศึกษาให้ดี และในปัจจุบันนี้การเริ่มต้นด้วยเงินเพียง 1,000 บาทสามารถซื้อหุ้นได้ แต่คุณจะต้องเลือกหุ้นในราคาที่เหมาะสม และดูขั้นต่ำในการซื้อหุ้น หากว่าคุณมีเงิน 1,000 บาท คุณต้องการซื้อหุ้นBEM ซึ่งราคาในขณะนั้น อยู่ที่ 5.30 บาท คุณจะสามารถซื้อได้ 18 หน่วย โดยใช้เงินทั้งหมดในการซื้อ 996.4 หากว่าหุ้นขึ้น เป็น 9.2 บาท คุณจะได้กำไร 733.2 บาท นั่นเอง โดยที่เงินต้นก็ยังอยู่ แต่การลงทุนหุ้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความมั่นคง และมีรายได้สม่ำเสมอ พร้อมที่จะเติบโตกับไปกับบริษัท เราจะต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เรื่องหุ้น สำหรับเอกสารในการเปิดพอร์ตหุ้น คือ สำเนาบัตรประชาชนสำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาสมุดบัญชี จากนั้นให้คุณเลือก buy Sell กรอกชื่อย่อของหุ้นที่ต้องการซื้อ ใส่จำนวนหุ้นที่คุณต้องการจะซื้อ โดยปกติแล้วจะมีขั้นต่ำที่ 100 หุ้น ใส่ราคาที่คุณต้องการซื้อ ใส่ Pin กดปุ่ม buy คือซื้อเพียงเท่านี้ก็ซื้อหุ้นได้แล้ว
- การลงทุนตราสารหนี้ เป็นหนึ่งในตัวเลือก ที่น่าลงทุนโดยเริ่มต้นที่ 1000 บาท ตราสารหนี้ หมายถึงว่าคุณเป็นเจ้าหนี้ให้กับรัฐบาลหรือเอกชน โดยลูกหนี้จะมีหน้าที่นำเงินมาจ่ายดอกเบี้ยสม่ำเสมอ ตามที่กำหนดไว้ โดยจะต้องชำระเงินต้นคืนเมื่อครบอายุกำหนดการลงทุนตราสารใด มี 2 รูปแบบคือลงทุนระยะสั้นและลงทุนระยะยาว รวมถึงมีหลายความเสี่ยงให้เลือก เช่นการลงทุน ในพันธบัตรรัฐบาล ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงินหุ้นกู้ บริษัทเอกชน หรือตั๋วเงินคงคลัง เป็นต้น อีกทั้งการลงทุนตราสารหนี้ สิ่งที่คุณควรจะพิจารณาคือเศรษฐกิจและแนวโน้มในการจ่ายอัตราดอกเบี้ยต่างๆในตลาดที่คุณลงทุน ต้องเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ รวมถุงควรดูสภาพคล่องในการซื้อขาย สำหรับ พันธบัตรออมทรัพย์เป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาล โดยที่คุณมีเงินลงทุน 1,000 บาทซื้อได้ ซึ่งผลตอบแทนจะอยู่ที่ประมาณ 2-3%ต่อปี เป็นความเสี่ยงต่ำเหมาะสำหรับคนที่ต้องการรักษาเงินต้น ยอมรับความเสี่ยงได้ไม่มากและไม่อยากเสียเงินต้นนั่นเอง
- การลงทุนในคลิปโต เป็นสินทรัพย์ดิจิตอลที่มีการเข้ารหัสและมีราคากลาง ในการซื้อขายราคา ผันผวนขึ้นลงตามกลไกการตลาด แล้วคุณสามารถซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตได้ โดยที่คุณดูข้อมูล ว่า เหรียญคริปโตไหนราคาเท่าไหร่ขึ้นลง เป็นอย่างไรราคาผันผวนมากหรือน้อยเพียงใด ควรจะต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดี ก่อนการลงทุนเสมอ
ข้อผิดพลาดที่นักลงทุนมือใหม่อาจเจอ
1.ไม่มีเป้าหมายในการลงทุนไม่ได้มี passion
การตั้งเป้าหมายเป็นสิ่งที่สำคัญ หากนักลงทุนไม่มีเป้าหมายแค่มีเงิน ลงทุนก็ลงไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้สนใจอะไร ไม่หาข้อมู ลอาจจะทำให้คุณติดลบหรือ ขาดทุนได้ ดังนั้นให้เปลี่ยนมาเป็นการตั้งเป้าหมายมีระยะเวลากำหนด เช่น คุณซื้อ bitcoin โดยลงทุน 1,000 บาทระยะเวลา 1 ปีโดยนำเงินที่ได้ ไปซื้อสินค้าหรือนำไปลงทุน เพื่อต่อยอดในธุรกิจอื่นๆหรือการลงทุนประเภทอื่นเป็นต้น
2.นำเงินในชีวิตประจำวันที่คุณใช้มาลงทุน เพราะการหมุนเวียนเงินลงทุนนั้น ค่อนข้างน้อยเราแนะนำให้คุณ ใช้เงินเย็นในการลงทุนดีกว่าโดยที่เงินนั้นเป็นเงินที่สามารถวางนิ่งๆ ได้ในระยะยาว ถ้าคุณนำเงินที่ใช้ในชีวิตประจำวันมาลงทุน แล้วเงินยังไม่ได้กลับมาคุณเดือดร้อนแน่นอนเพราะหมุนเงินไม่ทัน ดังนั้นเราควรระวังเรื่องนี้ให้จงหนัก
3.ดูกลุ่มไลน์เชื่อข่าววงในมากเกินไป คำว่าวงในเราไม่รู้ว่าเขานั้นคือใครมาจากไหน เชื่อถือได้หรือไม่ บางคนพอมีข้อมูลเหล่านี้ออกมาตื่นตระหนกตกใจทุ่มซื้อหุ้นมากกว่าเดิม หรือบางคนตัดสินใจขายทันที ทั้งที่ยังไม่ได้ทำกำไรหรือยัง ไม่มีแนวโน้มในการเปลี่ยนแปลงเลย ดังนั้นการลงทุนจะต้องรู้และไม่เชื่อคนอื่นง่าย
4.Panic กังวลจนเกินไป หากมีความเครียดและความกังวลใจเกี่ยวกับการซื้อ เหรียญคริปโตเคอเรนซี่ ขึ้นลง รวดเร็วภายใน 1 ชั่วโมงเปลี่ยนแปลงแล้ว บางคนพอเจอเหรียญคริปโตร่วงรีบขายทิ้ง เพราะกลัวขาดทุนบางคนก็รีบซื้อเพื่อจะทำกำไร แต่ซื้อในราคาสูง ซึ่งคุณจะต้องเข้าใจว่าเหรียญคริปโตมีการขึ้นลงอย่างรวดเร็ว เป็นเรื่องปกติการใช้สติคิดวิเคราะห์ในการซื้อคริปโต และที่สำคัญคือคุณจะต้องใจเย็น คิดให้รอบคอบ ถ้า
5.เชื่อผลตอบแทนเกินจริง คุณอาจจะเคยได้ยินข่าว มาแล้วว่า มีการระดมเงินทุนเพื่อไปซื้อเหรียญคริปโต แปลกๆหรือมีการแจกเหรียญฟรีให้ผลตอบแทนที่สูงเกินจริง เช่น ให้โบนัส 3 เท่าได้เหรียญคริปโตฟรีแบบไม่น่าเชื่อ ซึ่ง คุณจะต้องมีต่อมเอ๊ะสงสัยแล้วว่า ผลตอบแทนสูงขนาดนี้มีจริงหรอ แล้วเหตุใดทำไมคนถึงชักชวน อย่าลงทุนกับผลตอบแทนที่ไม่มีที่มาที่ไป เพราะอาจจะทำให้คุณถูกหลอกได้
6.มั่นใจมากเกินไปและไม่เผื่อใจในการลงทุน การลงทุนมีขึ้นมีลงมีได้มีเสียเป็นเรื่องธรรมดา บางคนมีความมั่นใจในตัวเองสูงซื้อหุ้นซื้อคริปโตเยอะมาก เพราะเมื่อเวลาราคาตกทำให้ขาดทุน เรียกได้ว่าไม่ได้ศึกษาก่อนการลงทุน ซึ่งจะทำให้เกิดผลเสียคนอื่นๆตามมาได้ดังนั้นก่อนการลงทุนอะไรก็ตาม ทั้งลงทุนในธุรกิจและลงทุนหุ้น คุณจะต้องศึกษาหาข้อมูลความรู้ให้ดี เพื่อที่จะทำให้คุณไม่เสี่ยงและยังได้รับเงินผลกำไรเป็นการตอบแทนด้วย